Tuesday, October 26, 2010

สิ่งโดนใจจากงานเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ (2)

อนาคตประเทศไทย
จะผ่าทางตันออกไปอย่างไร...ศึกษาจากนโยบายของจีน...แนวนโยบายของจีนมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง?
ลักษณะร่วมในสามฉากอนาคต
ในการปาฐกถางานเปิดตัวหนังสือที่ชื่อว่า หยั่งรู้อนาคต หลักการ ทฤษฎีและเทคนิคอนาคตศึกษาเมื่อวันที่ 24 .. 2553 อนุช อาภาภิรม หลังจากกล่าวถึงฉากอนาคตที่มีความเป็นไปได้ 3 ฉาก (ดูบล็อกก่อนหน้านี้) แล้ว ได้ชี้ว่า ในทั้ง 3 ฉากที่กล่าวมานั้น มีลักษณะร่วมอยู่ 3-4 ประการ ที่ไม่ว่าอนาคตไทยจะเป็นแบบใดคือไม่ว่าจะเป็นแบบ ไทยเข้มแข็งหรือ คนป่วยแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือ รัฐที่ล้มเหลวและถูกละทิ้งก็จะมีลักษณะร่วมกันคือ...
(1) ศูนย์กลางอำนาจจะอ่อนลง ซึ่งหมายถึงทั้งรัฐและกลไกการปกครองรัฐจะต้องอ่อนลง ในกรณีไทยเข้มแข็งนั้น ไม่ได้หมายความว่าศูนย์กลางอำนาจรัฐแข็งแบบเผด็จการฟาสซิสม์ แต่หมายถึงเข้มแข็งทั้งประเทศ เพราะอำนาจจากศูนย์กลางจะถูกกระจายลงไปสู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึง
(2) ประเด็นความมั่นคงของรัฐจะทวีความสำคัญขึ้นเนื่องจากมีปัญหาการเมือง และทหารก็จะมีบทบาททางการเมืองโดดเด่นขึ้น
(3) ปัญหาเศรษฐกิจจะหนักหน่วงขึ้น เช่น ปัญหาเงินเฟ้อ มีการขึ้นภาษีและอัตราดอกเบี้ย ก่อให้เกิดความเดือดร้อนในหมู่ประชาชนที่ขยายกว้างออก
(4) ความเคลื่อนไหวการเมืองจะมีการขับเคี่ยวกันรุนแรงขึ้น เช่น ในการเลือกตั้งจะเกิดจุดอับทางการเมือง ตกอยู่ในภาวะที่เครื่องมือที่เคยใช้ในการแก้ปัญหา เช่น การรัฐประหารหรือการเลือกตั้งก็ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
ดังนั้น ไทยต้องผ่าทางตันนี้ออกไปให้ได้...


ไทยจะผ่าทางตันได้อย่างไร?
ผู้พูดได้เสนอแนวทางที่จะนำพาประเทศไทยออกไปจากจุดอับและทางตันที่กำลังเผชิญอยู่ โดยเสนอให้ศึกษาแนวนโยบายของประเทศจีนและนำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับประเทศเรา แม้ว่าประเทศไทยจะมีพัฒนาการที่แตกต่างกับประเทศจีน ทั้งลักษณะทางสังคมและเศรษฐกิจของเราก็แตกต่าง แต่มีความเหมือนก็คือ ทั้งจีนและไทยเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา จีนได้ค้นคิดแนวทางนโยบายการพัฒนาของประเทศ จากจุดยืนของประเทศกำลังพัฒนา...ดังนั้นจึงน่าจะมีบทเรียนที่ประเทศกำลังพัฒนาด้วยกันนำไปใช้ได้...
ดูว่าจีนคิดนโยบายอะไรออกมาใช้บ้าง เริ่มตั้งแต่...
(1) นโยบาย 4 ทันสมัยคือการเกษตร อุตสาหกรรม การทหาร และวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี
(2) การค้นคิดนโยบาย ประเทศเดียวสองระบบเพื่อรวมเอาฮ่องกงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของประเทศโดยไม่ต้องไปเปลี่ยนระบบของฮ่องกงให้เป็นสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ เพราะฮ่องกงเป็นแบบทุนนิยมเต็มขั้น ผู้พูดยกตัวอย่างการจัดตั้งรัฐบาลของไทยว่าถ้าหากออกมาในลักษณะที่ทั้งคนกรุงเทพและต่างจังหวัดรับได้ ก็จะสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ในสังคมไทย
(3) นโยบายมุ่งสู่ตะวันตกนั่นคือการขยายเขตการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศลึกเข้ามาจากชายฝั่งตะวันออกมาสู่เขตที่ล้าหลังต่างๆ เช่นพื้นที่ในมณฑลเสฉวน เป็นต้น กรณีของไทยก็น่าจะปรับมาใช้ในลักษณะของการกระจายความเจริญออกไปรอบทิศทางจนทั่วทั้งประเทศ
(4) การเสนอคำขวัญ รุ่งเรืองอย่างสันติคือไม่ไปทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ไม่ทำสงครามต่อกรกับใคร
(5) เสนอคำขวัญทางสากลว่า โลกที่สอดประสาน (Harmonious World) นั่นคือ การเอื้อประโยชน์กันและกันอย่างทั่วถึง ให้ประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะจนหรือรวย สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข พูดง่ายๆ ก็คือ สันติภาพ มั่งคั่งและยั่งยืน นั่นเอง
นี่ก็คือสิ่งที่ผู้พูดได้เสนอ โดยชี้ว่าน่าจะช่วยให้ประเทศไทยจะออกจะจุดอับทางตันในปัจจุบันได้

ท่านผู้อ่านอาจจะตั้งคำถามก็ได้ว่า ทำไมต้องศึกษาจากแนวนโยบายของจีน?
น่าสนใจค่ะ ขอฝากให้เก็บไปช่วยกันคิดดูดีกว่านะคะ

ขอจบไว้เท่านี้ก่อนค่ะ กลัวคนอ่านจะเครียด...เครียดไหมคะ?
คิดเสียว่าเป็น Food for Thought ละกันนะคะ 
แล้วพบกันอีกค่ะ รักทุกท่านที่เข้ามาอ่าน (จะยิ่งรักมากหากท่านมีคอมเมนท์ :D)


No comments:

Post a Comment