Sunday, October 16, 2011

เดือนตุลาคมนี่... จริงๆ เลย...!


...ว่าจะไม่คิดไม่เขียนอะไรทั้งสิ้น แต่ก็ไม่รู้ทำไมจึงต้องเขียนจนได้...

ทำไมนะชีวิตของเราจึงต้องมาเกี่ยวข้องกับเดือนตุลาคมอยู่เรื่อยๆ จนน่าเบื่อ ...

แต่ก็เอาเถอะนะ... เพื่อนๆ และผู้อ่านก็ทนอ่านกันหน่อยนะคะ ไหนๆ ก็ไหนๆ เพราะว่า...
ตุลาคมนี้...ไม่เหมือนก่อนๆ...

...นอกจากบรรยากาศจะขมุกขมัว ฝนก็เทลงมาเหมือนบ้าคลั่งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แถมเคราะห์ซ้ำกรรมซัด น้ำก็ดันท่วมบ้านเรือนผู้คนเดือนร้อนอย่างหนักหนาสาหัส ฉันเองก็กำลังต้องทรมานกับอาการหลังแข็งก้มยาก คอเคล็ด ขาและไหล่ปวดเมื่อย (จากการยกดึงลากกระสอบทรายที่หนักเกิน และแพงเกิน) มันเป็นเดือนตุลาคมที่เครียดมากๆ อยู่แล้ว...!

เจ้ายังงามสง่าสมศักดิ์ศรีของนางนวลขาว
แต่เดือนตุลาคมปีนี้ ฉันยังได้พบเรื่องที่ต้องยิ้มทั้งน้ำตาอีกด้วยค่ะ...
ก็จะไม่ยิ้มทั้งน้ำตาได้อย่างไร ในเมื่อมันได้เป็นเดือนที่ลูกคนโตของฉันกลับมา...
หลังจากที่ได้ออกไปบินท่องโลกภายนอกอยู่ 3 ปีกว่าๆ... ลูกกลับมาค่ะ...
ลูกนางนวลน้อยสีขาว... บินกลับมา... เติบโตขึ้นและยังงามสง่าสมศักดิ์ศรีของเจ้านางนวล...
สำรวจดูปีกหางยังอยู่ครบถ้วนและดูแข็งแรงกว่าเดิม พระได้คุ้มครองนกน้อยตัวนี้...

พักเหนื่อยก่อนที่บ้านของเรานะจ๊ะ...
การกลับมาสู่อ้อมแขนของกันและกันสำหรับลูกและครอบครัวของเรา เป็นสิ่งที่มีความหมาย...มีเรื่องราว... มันเป็น Moment of Truth ที่ตราตรึงอยู่ในชีวิตของเรา...
ภาพที่ยังตราตรึงในใจ... เป็นเงื่อนปมที่ไม่เคยคลี่คลายลบเลือนออกไปจากใจของฉัน... เมื่อเดือนตุลาคม... 35 ปีที่แล้ว ลูกคนนี้นั่งบนตักพี่เลี้ยง โบกมือให้พ่อกับแม่ขณะถอยรถออกจากบ้านไปทำงานตอนเช้าตามปกติ... โดยไม่มีใครคาดคิดว่า... จากเช้าวันนั้น... เราจะไม่ได้เห็นหน้ากันอีกเป็นเวลาเกือบ 5 ปีติดต่อกัน...
...นั่นเป็นเพียงเพราะว่า...ทั้งพ่อและแม่คิดว่าความเสมอภาคเท่าเทียมและสิทธิในการเลือกนั้นควรอยู่คู่กับมวลมนุษยชาติ... หาไม่แล้วการเกิดขึ้นของเราก็คือความว่างเปล่า...  

ณ ตรงนี้ ฉันยังต้องขอขอบคุณ คุณอา คุณปู่คุณย่า คุณลุงคุณป้าทั้งหลายของเธอ ที่เมตตาให้ความรักความอบอุ่น และเป็นกำลังใจอย่างสำคัญให้เธอสามารถรอคอยการกลับมาของพ่อแม่อย่างเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว... ขอขอบคุณ
จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม...ลูกคนนี้เธอจึงผูกพันกับพี่ป้าน้าอาประดุจดั่งพ่อแม่ของเธอ... และเราก็ยังต้องขอบคุณที่ทุกๆ ท่านไม่เคยทำให้เธอนั้นหมดศรัทธาต่อพ่อแม่ของตัวเอง...

...30 ปีมาแล้ว... ฉันไม่เคยลืมวินาทีเต็มตื้นที่ได้พบลูก... และที่มันไม่ใช่ความฝันที่จะหายไปเมื่อลืมตาตื่นขึ้นอีกต่อไป... นั่นคือการกลับสู่อ้อมแขนครั้งแรกของเราค่ะ! The Moment of Truth!

ครั้งนั้น แม้ฉันจะกลับมาอย่างนักรบที่ปราศจากเหรียญตรา... แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะสำคัญสำหรับฉันมากไปกว่าที่ครอบครัวของเราได้กลับมาพร้อมหน้ากันอีกครั้ง...

ฉันนั้นเชื่อมั่นในครอบครัว เท่าๆ กับความเชื่อมั่นในประชาธิปไตย และสำนึกเสมอว่าตำแหน่งของแม่มีหน้าที่สำคัญในการรักษาครอบครัวเป็นอันดับแรก... นอกเหนือจากการทำงานอาชีพหรือสิ่งที่รักที่ชอบ...

 ตุลาคมนี้ไม่เหมือนก่อนจริงๆ ลูกของฉันกลับมา และกำลังจะโผบินอย่างสง่างามขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้งหนึ่งด้วยปีกที่แข็งแรง และใจที่แกร่งกล้าและมั่นคงแน่วแน่กว่าเดิม...

จงบินไปดั่งที่ใจปรารถนา...
และจงรู้ไว้...ไม่ว่ายามสุขหรือทุกข์ จะยังมีตัวตนของแม่หรือไม่มีแล้วก็ตาม... ใจที่รักลูกจะยังอยู่เช่นนี้เสมอไป...
...