ฉันเคยเป็น
“ยัยหมูอ้วน” หลายครั้งในชีวิตที่ผ่านมาค่ะ ...คุณก็อาจจะเคยใช่ไหมคะ?
เช่น
ตอนหลังจากคลอดลูกแต่ละคน แต่ที่สำคัญจากงานอาชีพที่นั่งอยู่กับที่นานๆ
ใช้สมองเป็นสำคัญ พูดง่ายๆ คือพวกนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรืออยู่กับกองหนังสือ /
เอกสาร หรืออะไรจำพวกนี้...
สิ่งที่ได้พยายามทำ
เพื่อให้น้ำหนักตัวกลับมาอยู่ ณ จุดที่พอใจ สบายตัว
เช่น
ไปโรงยิม เข้าคอร์สออกกำลังกาย ว่ายน้ำ แอโรบิค
เล่นเครื่องทรมานสังขารด้วยวิธีการต่างๆ เอาถุงทรายผูกขายกค้างนับช้าๆ ไปเรื่อยๆ ห้อยหัว
ยกเวท นวด ตบ ตี อบไอน้ำ พันร้อน นอนเครื่องดัดกาย
ควบคุมอาหารตามคำแนะนำของนักโภชนาการ ภายใต้การควบคุมดูแลของหมอ ทำดีท็อกซ์
ล้างตับไตไส้พุง สวนกาแฟ หรือโค-ลอน เธ-ราปี่ ฯลฯ
หมดคอร์ส
อยู่ได้ไม่นาน ก็กลับไปเป็น “ยัยหมูอ้วน” อีก...ครั้งแล้วครั้งเล่า...
ปลอบใจตัวเองว่า...
เมื่ออายุมากขึ้นคนเราก็ต้องมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นเป็นธรรมด้า... ธรรมดา...
แต่...
เห็นตัวเองในกระจกทีไร ก็รู้สึกว่า “ยัยหมูอ้วน” นี่น่าเกลียดขึ้นทุกวัน...
สวมใส่เสื้อผ้าอะไรก็มักต้องถอดออกเปลี่ยนใหม่... พอทำน้ำหนักลดลงได้หน่อยก็ดีใจ
ไชโย ไปปล่อยผี สวาปามของอร่อยที่ไม่ได้กินมานาน... อ่าววันนี้รู้สึกคับอีกแล้ว...
ทำอยู่อย่างนั้น เป็นอยู่อย่างนั้น...
อยู่มาวันหนึ่ง... หลังเสร็จงานชิ้นใหญ่ที่ต้องหามรุ่งหามค่ำอยู่หลายวัน
เก็บกวาดพวกขวดโหลขนมขบเคี้ยวออกจากห้องหลายใบ เหยือกแก้วน้ำถ้วยกาแฟ
กาน้ำชาที่วางอยู่รอบกาย ...รวบรวมความกล้า ก้าวขึ้นไปยืนบนเครื่องชั่งน้ำหนัก
ปรากฏว่า เข็มเครื่องชั่งน้ำหนักกระดิกเลยเลข 7 ไปเลย...
ช็อก
และมองทะลุเห็นโรคร้ายต่างๆ ที่จะตามมากับตัวเลขน้ำหนักตัวที่กระดิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นั้น
ไม่ต้องสงสัยอีกเลย...
บอกตัวเองว่า “เราคือคนป่วย”
โรคนี้ไม่ใช่ธรรมดา
เป็นโรคเรื้อรัง หากขืนปล่อยไปตามยถากรรม
ทั้งเนื้อทั้งตัวของเราจะไม่ใช่เราอีกต่อไป เราจะกลายเป็นพวกเครื่องดื่ม
ขนมขบเคี้ยวและของคาว / หวานที่เดินได้ และจะเดินได้เชื่องช้าลงเรื่อยๆ
เมื่อป่วยก็ต้องรักษาค่ะ
และนี่ก็คือ... จุดเริ่มต้นของการแปลงโฉม “ยัยหมูอ้วน” คนนี้ค่ะ...
ปรากฏว่า
เมื่อฉันเริ่มต้นจากความตระหนัก การยอมรับเข้าใจอย่างลึกว่า
ทำไมเราจึงต้องเอาน้ำหนักลงไป เอาตัวตนที่แท้จริงของเรากลับคืนมา ฉันกลับพบว่า
วิธีการที่เราใช้มันง่ายมาก เลือกให้เหมาะกับตัวเรา
และคิดว่าแต่ละคนไม่น่าจะใช้สูตรสำเร็จที่เหมือนกันได้ เช่น
ฉันใช้การเลือกกินอาหารอยู่รอบแกนของสูตร “อาหารตามกรุ๊ปเลือด”
และไม่งดอาหารชนิดใดเลย เพราะไม่ได้เป็นโรคประจำตัวร้ายแรงอะไร
แต่...
มีหลักการที่สำคัญอันหนึ่ง ที่ฉันคิดว่าน่าจะใช้ได้ทั่วไป นั่นคือ...
หลักการกินอาหารในปริมาณที่น้อยลงจากที่เราเคยกิน
(แบบไม่มี Limit
อร่อยก็ฟาดไม่ยั้ง...) โดยลดลงอย่างน้อย 1 ใน 3
ถึงครึ่งหนึ่งของที่เคยกินค่ะ สิ่งที่ต้องถือเคร่งครัดอย่างเดียว
คือวินัยการกินน้อย...
...จงมีความสุขกับการกินน้อย...แต่ไม่ใช่การอดอาหาร...กินทุกอย่างในปริมาณน้อย
กินช้าๆ เคี้ยวนานๆ ซึมซับกลิ่นรสของอาหารให้เต็มที่...
จากนี้จะพบว่า
เราสามารถกินอาหารทุกอย่างในโลกนี้ที่มนุษย์กินได้ แม้กระทั่งอาหารที่เค้าเรียกว่า
อาหารขยะ หรือ อาหารที่ไม่ถูกกับกรุ๊ปเลือดของเรา ร่างกายเราจะได้รู้จักกับคู่ขัดแย้ง
ระบบภูมิคุ้มกันของเราจะได้ทำงานบ้างไง...
อย่างไรก็ตาม
ควรกินอาหารดีๆ เป็นหลัก กินเป็นเวลา อย่าปล่อยให้ร่างกายหิวโหยเกินไป
ควรพกอาหารประเภทอัดแท่งดีๆ ติดตัวไว้เสมอ และฉันมักให้อาหารมื้อเย็นเป็นมื้อที่เบาที่สุดในแต่ละวัน
เราจะพบว่าน้ำหนักตัวของเราค่อยๆ
ลดลงไปเองเรื่อยๆ... โดยไม่มีอาการง่อยเปลี้ยเสียขาใดๆ
ไม่ต้องสงสัยนะคะ
น้ำหนักที่ลดลงไปนั้นคือน้ำหนักส่วนเกินที่เราทำกับตัวเองไว้...
เราอาจสามารถกำหนดน้ำหนักต่ำสุด
/ สูงสุดของเราไว้ก็ได้ โดยดูจากลักษณะรูปร่าง
ส่วนสูงและที่สำคัญโครงสร้างกับมวลกระดูกของตัวเรา ซึ่งมันจะเป็นตัวแปรในการกำหนดน้ำหนักฐานของเราที่แตกต่างจากคนอื่นๆค่ะ
ฉันสามารถทำให้น้ำหนักตัวลดลงไปได้เกือบ
10 กิโลกรัม
ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน และมีน้ำหนักที่คงตัวมาอย่างต่อเนื่อง ไม่สวิงตัวขึ้น / ลง
กลับไปมามาเป็นปีแล้วค่ะ
ดูเหมือนว่า
ระบบการเผาผลาญในร่างกาย (Metabolism) ก็ได้ปรับเปลี่ยน มารับกับนิสัยการกินที่เราสร้างขึ้นใหม่ รวมทั้งกระเพาะอาหารของเราก็ปรับกระชับขนาดให้เหมาะกับปริมาณอาหารที่เราใส่เข้าไปในแต่ละมื้อ
พุงของเราก็ยุบราบเรียบลงมาเอง ทำให้เราสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้คล่องแคล่วมากขึ้นค่ะ หลังก็ตรงขึ้นเพราะไม่ต้องแบกน้ำหนักพุง
วันนี้นำประสบการณ์ตรงมาแลกเปลี่ยนกันเท่านี้ก่อนนะคะ
ยังมีรายละเอียดนอกเหนือจากนี้อีกค่ะ จะนำมาแลกเปลี่ยนวันหลังนะคะ เช่น การปรับท่วงทำนองการทำงาน
การบริหารร่างกาย การเล่นงานอดิเรกต่างๆ ค่ะ
หากเพื่อนๆ หรือท่านใดมีประสบการณ์น่าสนใจ เขียนเข้ามาสิคะ แลกเปลี่ยนกันให้กระจายไปเลย...
หากเพื่อนๆ หรือท่านใดมีประสบการณ์น่าสนใจ เขียนเข้ามาสิคะ แลกเปลี่ยนกันให้กระจายไปเลย...