Monday, January 30, 2012

สอนลูกไม่ให้เป็นเด็ก Spoiled!


คุณพ่อคุณแม่เคยนึกกลัวว่าลูกเราจะกลายเป็นเด็ก Spoiled หรือเป็นคุณหนูสำคัญตัวว่าแน่กว่าเพื่อนบ้างไหมคะ?


Avoid being spoiled!
แต่ก็ไม่ต้องการให้ลูกให้กลายเป็น “เบ๊หัวสี่เหลี่ยม” (เป็นผู้รับคำสั่งอย่างเดียว) หรือพวกขาดความมั่นใจในตนเอง ใช่ไหมคะ?

ฉันพบว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ เลยละค่ะ

สิ่งต่างๆ มันไม่ยินยอมที่จะเกิดขึ้นตามความปรารถนาของเราอย่างง่ายๆ และโดยทั่วไปมักจะเกิดขึ้นในเงื่อนไขที่ละเอียดอ่อนอย่างมาก... มากเสียจนบางทีไม่มีใครที่จะสามารถจำลองสถานการณ์ เพื่อนำมาสร้างเป็นสูตรสำเร็จได้

แต่...มันก็น่าจะมีหนทางที่พอจะทำได้บ้าง... เช่น การทำให้มันเกิดขึ้นเองอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด

เลี้ยงลูกไม่ให้เป็นเด็ก Spoiled โดยธรรมชาติ ทำอย่างไรเล่า?

เราจะเลี้ยงดูลูกของเราอย่างไร จึงจะทำให้เขาเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์แบบอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด

#########

ฉันชอบความสวยงามที่เป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างเป็นธรรมชาติ... ฉันคิดว่า หากปล่อยเป็นธรรมชาติเฉยๆ ไม่ช่วยจัดระเบียบ มันก็จะไม่สวยงามนัก มันอาจจะดู เละ-และ-รก-รุงรังค่ะ

 แต่การจัดระเบียบหรือดัดแปลงมากเกินไป สิ่งนั้นก็จะขาดความเป็นธรรมชาติของตัวเองไป มันก็ไม่สวยและไม่ยั่งยืนด้วยค่ะ

ดังนั้น ก่อนอื่น เราต้องชัดเจนว่าเราอยากเห็นลูกของเราเป็นคนอย่างไร (“ลูกในฝัน” ว่างั้นเถอะค่ะ)

ไม่เป็นคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็น ต้องมีคนคอยทำให้ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เอาแต่ใจตนเอง อยากได้อะไรก็ต้องได้ ไม่ได้ก็พยศ หรือดูถูกคนอื่น เห็นตัวเองเก่งคนเดียว และอื่นๆ

ลูกในฝันควรจะเป็นคนที่รู้จักประมาณตัวเอง และพยายามรู้จักและศึกษาสิ่งที่ดีจากคนอื่นๆ รู้จักการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ รู้จักควบคุมตนเอง รู้จักกาลเทศะ และให้ความนับถือในความเห็นและความเป็นอิสระ-ตัวตนของผู้อื่น แม้กระทั่งผู้ที่มีความเห็นแตกต่างกับตน (ใจกว้าง) ให้โอกาสคนอื่นๆ รู้จักการรอคอยโอกาสของตน เป็นต้น

##############
เมื่อเรามีความชัดเจนเกี่ยวกับคุณสมบัติของลูกในฝันของเราแล้ว ก็มาถึงตอนที่จะทำให้มันเกิดขึ้นในตัวของลูกอย่างเป็นธรรมชาติ นี่แหละค่ะ... จะว่ามันยากก็ยาก จะว่าง่ายก็ได้นะคะ

สิ่งที่ฉันพบและปฏิบัติ เช่น การสนองเงื่อนไขให้ลูกเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดีที่เป็นแม่แบบให้ลูกได้สัมผัสอยู่เป็นกิจวัตร ในนี้พบว่าสภาพในบ้านสำคัญที่สุด คนที่ใกล้ชิดลูกที่สุดมีความสำคัญที่สุด เช่นคุณแม่ต้องไม่เป็นต้นแบบคุณหนูซะเอง หรือคุณพ่อไม่เป็นต้นแบบที่แสดงตัวว่า “ข้าแน่” หรือในทางตรงกันข้าม “ยอมเค้า” อยู่เรื่อย... ไรพวกนี้นะคะ

 เพราะลูกจะซึมซับนิสัยใจคอของคนใกล้ชิด และถือเป็นแม่แบบของตนโดยไม่รู้ตัว

การรู้จักตนเองก็มาจากการที่มีคนคอยพูดคุยบอกเล่า เรื่องราวเกี่ยวกับตัวตนของเค้าให้ได้ฟังเสมอๆ โดยเฉพาะเรื่องที่มีความสำคัญมีความหมาย มีความสนุกสนานน่ายินดี ส่งเสริมการสร้างนิสัยที่ดีต่างๆ เล่าเป็นนิทานเลยก็ยิ่งดีค่ะ

ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับการเห็นความสำคัญของตนเองและผู้อื่นๆ และรู้จักกาลเทศะ รู้จักรอคอยจังหวะและโอกาสที่ดีของตัวเอง เหล่านี้เป็นเรื่องที่ลูกจะรู้จักปรับตัวต่อโลกภายนอก

ฉันพบว่า การให้ลูกมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมเป็นกลุ่ม –เน้นกิจกรรมเป็นกลุ่มค่ะ- จะช่วยได้มาก อย่างเช่นการเล่นกีฬาเป็นทีม เช่น ฟุตบอล บาสเก็ตบอล หรือเข้าร่วมการเล่นดนตรีเป็นวงใหญ่ๆ เช่น วงโยธวาทิต หรือซิมโฟนิก แบนด์ของโรงเรียน เป็นต้น

###########

ฉันค่อนข้างเชื่อว่า กิจกรรมดังกล่าวข้างต้นจะช่วยเสริมสร้างลักษณะนิสัยที่ดีและจิตใจที่กว้างขึ้นให้แก่เด็ก...

เพราะอย่างการเล่นดนตรีเป็นวงใหญ่ หากสมาชิกในวงไม่เห็นความสำคัญของเพื่อนในวง ก็วงแตก หรือขาดการติดตามเวลาคนอื่นทำหน้าที่ของตน ก็ไม่สามารถรู้ว่าจังหวะของตนอยู่ตรงไหน การเล่นดนตรีก็ล้มเหลว เด็กจึงได้รับการฝึกฝนกล่อมเกลานิสัยและจิตใจจากกิจกรรมแบบนี้อย่างมาก

ที่กล่าวมาเป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อย น่าจะยังมีทางอื่นๆ อีกที่จะทำให้ลูกๆ ของเราห่างจากการเป็นคุณหนู และการสำคัญว่าตัวเองเก่งกว่าเพื่อน...

จึงขอแลกเปลี่ยนทัศนะกันมา ณ ที่นี้ด้วยรักและนับถือค่ะ...

1 comment:

  1. สวัสดีค่ะเพื่อนชาวบล็อก,
    ไม่ได้แวะเวียนมาเสียนาน เนื่องจากติดภารกิจต่างๆ ในชีวิตจำนวนมาก แม้จะคิดถึงเพื่อนๆ ตลอด
    ที่จริงข้อเขียนชิ้นนี้ตั้งใจเขียนในบล็อก มอมมี่พีเดีย แต่ใช้เวลาหลายชั่วโมงและหลายครั้งไม่สามารถอัพโหลดบทความเข้าไปได้
    จึ
    ผ่านมาลงที่บล็อกสปอตแห่งนี้ เพราะลิงค์กันตลอดเวลาได้อยู่แล้วนะคะ

    รักคนอ่านเสมอค่ะ
    Please Enjoy!

    ReplyDelete