Sunday, May 23, 2010

จิตสาธารณะของคนไทยมีไหม? (Any public mindedness exists somewhere here?)

ขยับจะเขียนถึงเรื่องนี้มาหลายครั้ง แต่ก็รามือยอมแพ้ไปทุกครั้ง เพราะพบว่ากำลังจะพูดถึงเรื่องที่ “ยากแท้หยั่งถึง” ดังที่ท่านสุนทรภู่เขียนไว้ว่า “จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง…”
แต่เรื่องนี้ก็ยังวนเวียน และโบยตีจิตใจฉันอยู่ตลอดเวลา…
จะรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่นึกถึงคำพูดที่ได้ยินบ่อยๆ ว่า “คนไทยไม่มีจิตสาธารณะ” “คนไทยคิดแต่จะเอาเข้าตัวเอง แต่ไม่เคยคิดจะให้อะไรแก่ส่วนรวม” “คนไทยเอาแต่ได้ เห็นแก่ตัว”
...
ฉันรู้สึกเหน็บหนาว และสิ้นหวัง พยายามจะแสวงหาแบบอย่างพฤติกรรมอันควรเชิดชู ที่จะมาหักล้างคำกล่าวหาเหล่านั้นอย่างยากเย็น…
...
…ทำไมเราจึงไม่มีบุคคลตัวอย่างคนหนึ่งคนใดหลงเหลืออยู่ในความทรงจำบ้างเลย ทำไมเราไม่มีคนอย่างโรบินฮู๊ด หรือซอร์โร ที่สถิตอยู่ ณ กลางใจผู้คนเสมอมา ฯลฯ
ทำไมเราไม่เคยมีวีรบุรุษหรือวีรสตรีที่เปล่งประกายแสงรุ่งโรจน์อยู่ในใจ และสามารถกลายเป็นแสงสว่างนำทางให้เราเดินไปบนเส้นทางแห่งความรุ่งโรจน์อย่างนั้นบ้าง?
มีอยู่บ้าง… แต่ก็รางเลือนเหลือเกิน… ทำไมวีรกรรมอย่างของชาวบ้านบางระจัน ที่รวมตัวกันลุกขึ้นต่อสู้กับพม่าข้าศึกเพื่อปกป้องมาตุภูมิ ถิ่นที่ทำกินของตนอย่างห้าวหาญ จึงปรากฏอย่างรางเลือนในความทรงจำของเรานัก? ทำไมวีรกรรมอย่างของท้าวเทพกษัตรีย์ ท้าวศรีสุนทร หรือกระทั่งท้าวสุรนารี ฯลฯ จึงปรากฏภาพอย่างรางเลือนในความทรงจำของเรานัก?
ทำไม?
ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของชนชาติไทยนี้ ไม่มีวีรกรรมของวีรชนที่ควรเชิดชู เกิดขึ้นมาบ้างเลยหรือ?
หรือว่า สังคมประเทศนี้ไม่เคยยกย่องส่งเสริมวีรกรรมและวีรชน ที่เสียสละตนเองอย่างกล้าหาญ ให้โดดเด่นขึ้นมา เพื่อเป็นแบบอย่างอันน่าภาคภูมิ และปลูกฝังอยู่ในใจของชนรุ่นหลัง ให้เป็นประดุจโคมส่องนำทางแก่พวกเขา? หรือว่าสังคมประเทศนี้ให้ความสำคัญกับสิ่งนี้น้อยเกินไป จำกัดเกินไป?
ไม่รู้กันบ้างเลยหรือว่านั่นคือที่มาอันสำคัญหนึ่งของสิ่งที่เรียกว่า “จิตสาธารณะ” ที่ถูกถามหา?

หรือว่าสังคมนี้มีแต่กระบวนการส่งเสริมยกย่องแบบอื่น เช่น การอุทิศหรือเสียสละตนเองเพื่อบุคคล หรือเทพเจ้าที่มองไม่เห็น เพื่อเป็นทางสู่สรวงสวรรค์ส่วนตัวของแต่ละคน? การตัดช่องน้อยแต่พอตัว การรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี การยักย้ายถ่ายเท เล่นเล่ห์เพทุบาย เก่งเฉพาะตน การสะสมอำนาจเพื่อข่มขู่และข่มเหงคนอื่น ฯลฯ
ไม่รู้กันเลยหรือว่านั่นคือที่มาอันสำคัญหนึ่งของสิ่งที่เรียกว่า “จิตทาสที่ปล่อยไม่ไป” และหายนะขององคาพยพทั้งมวล?

อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์มนุษยชาติคือประวัติแห่งการอยู่ร่วมกัน และการทำลายล้างกัน เพื่อช่วงชิงแหล่งที่ดีที่สุดสำหรับการดำรงอยู่อย่างดีที่สุดของตน
แต่ประวัติศาสตร์ก็สอนเราว่า ชาติใดที่ประกอบด้วยบุคคลที่มีจิตสาธารณะ ยิ่งมากก็จะยิ่งใหญ่รุ่งเรือง ในทางตรงข้าม ชาติใดส่งเสริมจิตทาสที่ปล่อยไม่ไป ก็จะเดินสู่หนทางหายนะ และล่มสลายในที่สุด…
จิตสาธารณะ (ที่แท้จริง) จะไม่สามารถเกิดขึ้นมาเองหรือส่งลงมาจากฟ้า หากแต่จะเกิดขึ้นได้ ท่ามกลางการต่อสู้เพื่ออิสระเสรีภาพและอธิปไตยของมนุษย์เองเท่านั้น…

จิตสาธารณะจะไม่มีวันครองใจผู้ที่ไม่เคยต่อสู้

No comments:

Post a Comment