คุณพ่อคุณแม่เคยนึกกลัวว่าลูกเราจะกลายเป็นเด็ก
Spoiled หรือเป็นคุณหนูสำคัญตัวว่าแน่กว่าเพื่อนบ้างไหมคะ?
แต่ก็ไม่ต้องการให้ลูกให้กลายเป็น
“เบ๊หัวสี่เหลี่ยม” (เป็นผู้รับคำสั่งอย่างเดียว) หรือพวกขาดความมั่นใจในตนเอง ใช่ไหมคะ?
Avoid being spoiled! |
ฉันพบว่า
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ เลยละค่ะ
สิ่งต่างๆ
มันไม่ยินยอมที่จะเกิดขึ้นตามความปรารถนาของเราอย่างง่ายๆ และโดยทั่วไปมักจะเกิดขึ้นในเงื่อนไขที่ละเอียดอ่อนอย่างมาก...
มากเสียจนบางทีไม่มีใครที่จะสามารถจำลองสถานการณ์ เพื่อนำมาสร้างเป็นสูตรสำเร็จได้
แต่...มันก็น่าจะมีหนทางที่พอจะทำได้บ้าง...
เช่น การทำให้มันเกิดขึ้นเองอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด
เลี้ยงลูกไม่ให้เป็นเด็ก
Spoiled โดยธรรมชาติ
ทำอย่างไรเล่า?
เราจะเลี้ยงดูลูกของเราอย่างไร
จึงจะทำให้เขาเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์แบบอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด
#########
ฉันชอบความสวยงามที่เป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างเป็นธรรมชาติ...
ฉันคิดว่า หากปล่อยเป็นธรรมชาติเฉยๆ ไม่ช่วยจัดระเบียบ มันก็จะไม่สวยงามนัก
มันอาจจะดู เละ-และ-รก-รุงรังค่ะ
แต่การจัดระเบียบหรือดัดแปลงมากเกินไป
สิ่งนั้นก็จะขาดความเป็นธรรมชาติของตัวเองไป มันก็ไม่สวยและไม่ยั่งยืนด้วยค่ะ
ดังนั้น
ก่อนอื่น เราต้องชัดเจนว่าเราอยากเห็นลูกของเราเป็นคนอย่างไร (“ลูกในฝัน”
ว่างั้นเถอะค่ะ)
ไม่เป็นคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็น
ต้องมีคนคอยทำให้ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เอาแต่ใจตนเอง อยากได้อะไรก็ต้องได้
ไม่ได้ก็พยศ หรือดูถูกคนอื่น เห็นตัวเองเก่งคนเดียว และอื่นๆ
ลูกในฝันควรจะเป็นคนที่รู้จักประมาณตัวเอง
และพยายามรู้จักและศึกษาสิ่งที่ดีจากคนอื่นๆ รู้จักการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ
รู้จักควบคุมตนเอง รู้จักกาลเทศะ และให้ความนับถือในความเห็นและความเป็นอิสระ-ตัวตนของผู้อื่น
แม้กระทั่งผู้ที่มีความเห็นแตกต่างกับตน (ใจกว้าง) ให้โอกาสคนอื่นๆ
รู้จักการรอคอยโอกาสของตน เป็นต้น
##############
เมื่อเรามีความชัดเจนเกี่ยวกับคุณสมบัติของลูกในฝันของเราแล้ว
ก็มาถึงตอนที่จะทำให้มันเกิดขึ้นในตัวของลูกอย่างเป็นธรรมชาติ นี่แหละค่ะ...
จะว่ามันยากก็ยาก จะว่าง่ายก็ได้นะคะ
สิ่งที่ฉันพบและปฏิบัติ
เช่น การสนองเงื่อนไขให้ลูกเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดีที่เป็นแม่แบบให้ลูกได้สัมผัสอยู่เป็นกิจวัตร
ในนี้พบว่าสภาพในบ้านสำคัญที่สุด คนที่ใกล้ชิดลูกที่สุดมีความสำคัญที่สุด เช่นคุณแม่ต้องไม่เป็นต้นแบบคุณหนูซะเอง
หรือคุณพ่อไม่เป็นต้นแบบที่แสดงตัวว่า “ข้าแน่” หรือในทางตรงกันข้าม “ยอมเค้า”
อยู่เรื่อย... ไรพวกนี้นะคะ
เพราะลูกจะซึมซับนิสัยใจคอของคนใกล้ชิด
และถือเป็นแม่แบบของตนโดยไม่รู้ตัว
การรู้จักตนเองก็มาจากการที่มีคนคอยพูดคุยบอกเล่า
เรื่องราวเกี่ยวกับตัวตนของเค้าให้ได้ฟังเสมอๆ
โดยเฉพาะเรื่องที่มีความสำคัญมีความหมาย มีความสนุกสนานน่ายินดี
ส่งเสริมการสร้างนิสัยที่ดีต่างๆ เล่าเป็นนิทานเลยก็ยิ่งดีค่ะ
ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับการเห็นความสำคัญของตนเองและผู้อื่นๆ
และรู้จักกาลเทศะ รู้จักรอคอยจังหวะและโอกาสที่ดีของตัวเอง
เหล่านี้เป็นเรื่องที่ลูกจะรู้จักปรับตัวต่อโลกภายนอก
ฉันพบว่า
การให้ลูกมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมเป็นกลุ่ม –เน้นกิจกรรมเป็นกลุ่มค่ะ- จะช่วยได้มาก
อย่างเช่นการเล่นกีฬาเป็นทีม เช่น ฟุตบอล บาสเก็ตบอล หรือเข้าร่วมการเล่นดนตรีเป็นวงใหญ่ๆ
เช่น วงโยธวาทิต หรือซิมโฟนิก แบนด์ของโรงเรียน เป็นต้น
###########
ฉันค่อนข้างเชื่อว่า
กิจกรรมดังกล่าวข้างต้นจะช่วยเสริมสร้างลักษณะนิสัยที่ดีและจิตใจที่กว้างขึ้นให้แก่เด็ก...
เพราะอย่างการเล่นดนตรีเป็นวงใหญ่
หากสมาชิกในวงไม่เห็นความสำคัญของเพื่อนในวง ก็วงแตก
หรือขาดการติดตามเวลาคนอื่นทำหน้าที่ของตน ก็ไม่สามารถรู้ว่าจังหวะของตนอยู่ตรงไหน
การเล่นดนตรีก็ล้มเหลว เด็กจึงได้รับการฝึกฝนกล่อมเกลานิสัยและจิตใจจากกิจกรรมแบบนี้อย่างมาก
จึงขอแลกเปลี่ยนทัศนะกันมา ณ ที่นี้ด้วยรักและนับถือค่ะ...
สวัสดีค่ะเพื่อนชาวบล็อก,
ReplyDeleteไม่ได้แวะเวียนมาเสียนาน เนื่องจากติดภารกิจต่างๆ ในชีวิตจำนวนมาก แม้จะคิดถึงเพื่อนๆ ตลอด
ที่จริงข้อเขียนชิ้นนี้ตั้งใจเขียนในบล็อก มอมมี่พีเดีย แต่ใช้เวลาหลายชั่วโมงและหลายครั้งไม่สามารถอัพโหลดบทความเข้าไปได้
จึ
ผ่านมาลงที่บล็อกสปอตแห่งนี้ เพราะลิงค์กันตลอดเวลาได้อยู่แล้วนะคะ
รักคนอ่านเสมอค่ะ
Please Enjoy!