#####
ในวันที่บรรยากาศครึ้มๆ
อึมครึม พิลึกๆๆ วันนี้ ก็นึกอยากเขียนถึงคนรุ่นหลัง รุ่นลูกๆ ก็คือคนรุ่นนี้ขึ้นมาค่ะ.....
#####
ก่อนอื่น
ก็อยากจะบอกรักค่ะ... รักและเชื่อมั่นในตัวพวกเค้ามากๆ จากใจเลยจริงๆ นะ เพราะอะไรหรือ?...
เพราะฉันเห็นว่า
โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้... พวกเค้าเหมือนต้องดำเนินชีวิตมีลมหายใจอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีแต่ความยุ่งเหยิง
น่าเหนื่อยหน่ายในเกือบทุกๆ ด้าน ในทั่วทุกแห่ง ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เผชิญ
เรียกว่าหนีไปให้พ้นยากมากๆ (ยากกว่าสมัยของเราเยอะค่ะ)
หลายๆ
คน โดยเฉพาะคนที่ต้องไปทำงาน ดูเหมือนต้องลืมตาตื่นขึ้นกลางสนามรบทุกวัน
อาจไม่เว้นแม้เสาร์-อาทิตย์ (ซึ่งดูเหมือนเป็นสองวันที่ทุกคนรู้สึกหวงแหนเป็นพิเศษ)
และที่สำคัญ
ที่บอกว่ารัก ก็เพราะว่า ฉันรู้สึกว่า คนที่เติบโตในยุคที่การสื่อสารมีความสดรวดเร็ว
เค้าต้องมีประสาทที่แข็งแกร่งประสิทธิภาพสูงกว่าในยุคของฉันมาก
เค้าต้องมีอาวุธรอบกายสำหรับรองรับต่อสู้ป้องกันตัวเอง
โดยเฉพาะจากการจู่โจมของข่าวสารที่หลั่งไหลเข้ามาอยู่ตลอดเวลา... เค้าต้องรู้จังหวะของการเปิด-ปิดรับข่าวสาร
เค้าต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่ง
รู้จักการแยกแยะ กลั่นกรอง รู้เท่าทัน
เค้าต้องเป็นเหมือนหน่วยข่าวกรองสำเร็จรูปเคลื่อนที่... กลั่นกรองได้ดีถูกต้องมาก
ก็สามารถกำหนดท่าทีการดำเนินชีวิตการทำงานที่มีความผิดพลาดน้อย และส่งผลดีได้มาก
เป็นต้น
และนี่แหละ...
ก็คือบรรทัดฐานที่จะบ่งชี้ความเก่งฉกาจของคนรุ่นนี้
#####
บอกได้เลยว่า...
คนรุ่นลูก – หลานของเรา เค้าคือคนในยุคข่าวสารที่แท้จริงค่ะ
และคนรุ่นนี้
เค้ามีพ่อแม่ ปู่ย่าตายายที่เติบโตมาในยุคของการแสวงหาจิตวิญญาณที่สูญหายไป ที่มีเพลงประจำยุคที่ร้องว่า...
“หากคุณจะมาที่ ซาน ฟรานซิสโก... ก็อย่าลืมทัดดอกไม้ไว้ที่ข้างหูด้วยนะ...” หรือ จากบ้านไปไกลแค่
100 – 500 ไมล์ ก็ร้องเพลงคร่ำครวญ
รู้สึกเหมือนห่างไกลมาก.... ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เจอกันอีกไหมหนอ....
เดี๋ยวนี้เป็นไง
อยู่ที่ไหน ส่วนไหนของโลก ก็เหมือนอยู่ห่างกันแค่คลิกเม๊าธ์ทีสองทีเท่านั้น...
ใครจะไปนึกไปคิดว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้
มันค่อยๆ มาๆๆ และอยู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้เลย ต่อหน้าต่อตาฉันเลย
ดังนั้น
คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูก ก็อย่าไปเสียอกเสียใจนะว่าลูกทำไมเค้าไม่เหมือนกะเราเล้ย...
เค้าไม่เหมือนเรานั่นเป็นสัญญาณที่ดีนะฉันว่า เพียงแต่ว่า เค้าจะเป็นแบบไหน
ก็ต้องเฝ้าสังเกตดู...
ก็น่าจะมีหลายๆ
แบบ ของใครของมัน แต่ขณะเดียวกัน มันก็น่าจะมีอะไรๆ ที่เป็นแก่นแกนกลางๆ ที่คล้ายๆ
กันอยู่บ้างนะคะ ...อย่างน้อยในภาพลักษณ์ภายนอกที่มองเห็นได้ เช่น มีอุปกรณ์ประจำตัว
เป็นแล็บท็อป มีแอร์การ์ด มีมือถือแบบ 3-จี ที่ สามารถเข้าอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา สามารถคุย
/ส่งข่าวสารผ่านไลน์ สไกป์ บีบี ว็อทสแอ็พ และมักมีบลูธูทติดอยู่ที่หู คล้ายในหนังอนาคตหรือไซไฟ
ที่เคยดู เป็นต้น
สมัยเรา
อย่างดีก็มีแค่สมุดบันทึกเล่มน้อยเล่มใหญ่... มีเทปอัดเสียง กล้องถ่ายภาพ วิทยุคลื่นสั้น
ก็เท่ระเบิดแล้ว /
#####
ดังนั้น
หากคุณเป็นคนแบบ ตื่นเช้ามาหยิบหนังสือพิมพ์อ่าน 5-10 ฉบับ จนมือดำ...
แต่ลูกคุณไม่แตะหนังสือพิมพ์สักฉบับ
กลับรู้ข่าวสำคัญๆ ก่อนเรา ผ่านทวิตเตอร์ และอุปกรณ์รับ/ ส่งข่าวสารอื่นๆ ประจำตัวของเค้าเรียบร้อยแล้ว สามารถแลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับข่าวสารต่างๆ
กับคุณบนโต๊ะอาหารตอนเช้าได้อย่างรวดเร็ว คล่องแคล่ว
และยังพร้อมตัดสินใจ
ใช้ / ทิ้งข่าวสารที่ไม่สำคัญจำเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีลังเลเลย...
เพราะเค้ารู้ว่า
เมื่อจะใช้ข่าวสารจะสามารถไปดึงเอามาจากที่ไหนได้บ้าง
รวดเร็วยิ่งกว่ากามนิตหนุ่ม...
นั่นก็คือเหตุผลที่ว่า
ทำไมคนรุ่นนี้ เค้าไม่มีความรู้สึกเหมือนจะถูกข่าวสารทับตาย เหมือนรุ่นฉัน...
ในช่วงรอยต่อก่อนมีอินเทอร์เน็ต
คนที่ชอบติดตามข่าวสาร มักชอบตัดหนังสือพิมพ์ เก็บเข้าแฟ้มๆๆๆ นานๆ เข้ามันมากขึ้นๆ
เวลาจะย้อนไปดูเหมือนจมอยู่ในทะเลข่าวสาร หากใครทำคลิปปิ้งด้วย จะค้นหาข่าวสารสักเรื่อง
เหมือนกำลังจะถูกคลิปปิ้งทับตายซะให้ได้...
ฉันเองเคยมีห้องขนาดประมาณเกือบ
20 ตรม. ที่มีชั้นเก็บคลิปปิ้งอยู่เต็มทั้งห้อง
สูงจากพื้นยังหลังคา...
บ้าไปได้ขนาดนั้นจริงๆๆ (แต่บ้าได้ไม่นาน
ยุคข่าวสารมันผันแปรรวดเร็วมาก ได้ช่วยฉันไว้/)
#####
เอาละค่ะ
เขียนมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะคิดว่า ฉันคงจบลงด้วยการที่จะพูดว่า คนรุ่นนี้คือคนไร้กระดาษ
คือไม่มีความจำเป็นที่จะต้องข้องเกี่ยวกับข่าวสารที่อยู่หน้ากระดาษ หรือในรูปเล่มหนังสือกันอีกต่อไป...
ไม่ ไม่เลยค่ะ...
ตอนนี้ยังไม่เห็นเป็นแบบนั้นนะคะ
ที่ฉันสังเกตเห็น
แม้ว่าหลายคนมีอุปกรณ์ที่สามารถใช้โปรแกรมปฏิบัติการณ์ที่โหลดหนังสือมาอ่านได้เป็นเล่มๆ
อยู่ในมือ และหนังสือเล่มในปัจจุบันที่มีการทำเป็น ดิจิตัล มากขึ้นๆๆ
แต่ที่ฉันเห็นกับตา...
คนรุ่นนี้ยังคงอ่านหนังสือเป็นเล่ม ยังแสวงหาหนังสือดีๆ มาอ่านกันอยู่ตลอดเวลา...
(อาจเป็นเพราะในขณะนี้...
หนังสือดิจิตัล ยังไม่มีอยู่อย่างเต็มรูปแบบเพียงพอก็เป็นได้นะคะ)
#####
ขอบอกว่า...
รักคนรุ่นนี้จริงๆ ยอมรับว่าเก่งจริงๆ เก่งกว่ารุ่นพ่อแม่แน่นอน...
และก็เชื่อมั่นว่า
คนรุ่นนี้จะแข็งแกร่งและสามารถนำพาสังคมมนุษย์ของเราฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ให้ก้าวกระโดดต่อไปได้เป็นอย่างดี...
คนรุ่นพ่อแม่นี่ก็จะหนุนช่วยจนสุดตัวเลย อย่าสงสัย เพราะเค้ามีรักเป็นทุนเดิมที่มั่นคงอยู่แล้วไง
อ้อ / และรักคนอ่านด้วยค่ะ
บล็อกหน้าเจอกันใหม่นะคะ
บ๊าย บาย...
#####
อ้อ... สวัสดีค่ะเพื่อนๆ คะ
ReplyDeleteประโยคขึ้นต้นของบล็อกนี้ เขียนไว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ค่ะ บรรยากาศเมื่อวานครึ้มๆ นะคะ
แต่... มาวันนี้ เห็นแดดสว่างใสมากเลยค่ะ ต้อนรับตอนที่บล็อกถุกสั่งโพสต์ขึ้นนี่เองค่ะ
เลยขอใส่คอมเมนท์แจ้งไว้ที่นี่ด้วยค่ะ